วันที่ 8 พฤศจิกายน 2567นายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอหล่มสักเป็นประธานในการรับมอบฝายทดน้ำบ้านร่องกะถิน โดยมีนายสมพงษ์ มาลา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล บ้านกลาง สมาชิก อบต กำนันผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ โรงเรียนและชาวบ้าน ร่องกะถิน.ร่วมรับมอบ ฝ่ายทดน้ำจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 โดยมีนายเมธี บุญพรหม ผู้ช่วยผู้ว่าการ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 3 ลพบุรี.ทำพิธีเปิดป้ายมอบฝ่ายทดน้ำให้กับชาวบ้าน
นายสุชาติ ล้ออุไร ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอ หล่มสักกล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดโครงการ PEAรักษ์น้ำสร้างฝายประจำปี2567ณ.บ้านร่องกะถินหมู่ที่5ตำบลบ้านกลางอำเภอหล่มสักจังหวัดเพชรบูรณ์ ในฐานะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินกิจการด้านพลังงานไฟฟ้าได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามนโยบายด้านสังคมสิ่งแวดล้อมโดยน้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและนวัตกรรม และคำนึงถึงความต้องการของชุมชนสังคมและสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงตระหนักถึงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมจึงได้สร้างฝายชะลอน้ำเพื่อกักเก็บน้ำให้เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์เป็นแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคตลอดจนนำไปใช้เพื่อการเกษตรในพื้นที่เพื่อลดการพังทลายของหน้าดินและลดความรุนแรงของกระแสน้ำในลำคลองช่วยกักเก็บน้ำและตะกอนวัสดุต่างๆที่ไหลลงมากับน้ำในลำคลองเพื่อเพิ่มความหนาแน่นของพันธุ์พืชและความหลากหลายทางชีวภาพ..การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจึงได้จัดสร้างฝายชะลอน้ำโดยใช้วัสดุคอนกรีตที่ชำรุดเช่นเสาไฟฟ้าเสาตอม่อ คอน ซึ่งจะสามารถชะลอการไหลของน้ำในฤดูฝนเมื่อเกิดน้ำหลากได้และยังสามารถชะลอน้ำให้ไหลช้าลงและเก็บไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งเพื่อทำการเกษตรของชุมชนในพื้นที่ทำให้ชุมชนที่อยู่ด้านล่างหรือด้านท้ายของน้ำจะได้มีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตร
สำหรับการดำเนินการโครงการสร้างฝายในครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ได้ร่วมกันสนับสนุนก่อสร้างฝายชะลอน้ำบ้านร่องกะถินเพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์ในการทำการเกษตรซึ่งจะมีเกษตรกรได้ใช้ประโยชน์ประมาณ 50 รายในพื้นที่จำนวน 300 ไร่ จากนั้นนาย เมธีบุญพรหม ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้า เขต 3และนายภาคภูมิ ภูมี นายอำเภอหล่มสักทำพิธีเปิดป้ายฝายทดน้ำบ้านร่องกระถิน และทำพิธีปล่อยปลาปลูกต้นไม้ ถ่ายรูปร่วมกันกับชาวบ้านและผู้บริหารส่วนราชการต่างๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น