จากการพูดคุยกันในห้องประชุม ได้มีผู้ปกครองเป็นตัวแทนกล่าวถึงเรื่องของการเรียนพิเศษหลังเวลาเลิกเรียนว่าไม่อยากให้หยุดสอน เพราะผู้ปกครองทุกคนเต็มใจที่จะจ่ายค่าสอนพิเศษเดือนละ 400 บาท และผู้ปกครองบางท่านก็ได้ขึ้นมาพูดถึงผลดีของการที่ลูกหลานได้เรียนพิเศษ ซึ่งเด็กนักเรียนบางคนจบจากที่นี่ไปแล้วได้เป็นวิศวกร เป็นหมอ เป็นแพทย์ เป็นทหารและเป็นตำรวจรวมถึงอื่นๆอีกหลายอาชีพ ซึ่งผู้ปกครองเล็งเห็นแล้วว่าเป็นผลดีกับบุตรหลาน จึงอยากให้ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบูรณ์ สั่งให้มีการเรียนการสอนต่อไปและมีผลกระทบต่อผู้ปกครองหลายๆคน เนื่องจากพ่อแม่ของเด็กนักเรียนหลายๆคนนั้นเป็นข้าราชการหรือต้องทำงาน จึงไม่มีเวลามารับลูกในเวลา 16:00 น จึงอยากให้ทางโรงเรียนนั้นสอนต่อจนถึงเวลา 17.00 นเหมือนเดิม
ด้านนาย ศุภผล จริงจิตร ผู้ปกครองของเด็กนักเรียน ได้กล่าวว่าแนวทางการแก้ไขควรให้จัดตั้งสมาคมขึ้นมารองรับ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งทางผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบูรณ์เห็นด้วย รวมถึงผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่มาร่วมประชุมส่วนใหย๋ก็เห็นด้วยอีกเช่นกัน ต่อจากนั้นนายนที บุญรอด ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวหนังสือพิมพ์คู่แผ่นดินประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เสนอแนะว่าในเบื้องต้ควร ให้จัดตั้งชมรมขึ้นมารองรับก่อนในระหว่างที่ทำเรื่องจัดตั้งเป็นสมาคมซึ่งจะต้องใช้เวลาในการยื่นขอจดแจ้งผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบูรณ์ได้กล่าวเพิ่มเติมกับผู้ปกครองว่า ตนเองเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะแต่จะขอพูดคุยกับคุณครูที่สอนนักเรียนก่อนว่าจะทำอย่างไรโดยจะแนะนำให้ใช้ชื่อในการสอนครั้งนี้ใหม่ก่อนเป็นการเรียนซ่อมเสริมโดยไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นในระหว่างการจดทะเบียนสมาคมให้ถูกต้องโดยจะเรียกคุณครูมาประชุมร่วมกันเพื่อปรึกษาหารือกัน หาทางออกร่วมกัน เพื่อที่จะไม่ให้ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนได้รับผลกระทบ จากนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลเพชรบูรณ์ได้กล่าวขอบคุณผู้ปกครองที่มาร่วมประชุมปรึกษาหารือกันในวันนี้ และขอบคุณสื่อมวลชนที่เข้ามาทำข่าวให้ความเป็นธรรมและนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น